26 AUGUST 2013

12th.


Science Experiences Management for Early Childhood

EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

เวลา08:30-12:20น. กลุ่มเรียน101 เลขที่16


ไม่มีการเรียนการสอน เพราะอาจารย์จัดงานเกษียณอายุราชการ

ความรู้เพิ่มเติม

เกษียณอายุ คือการที่ข้าราชการต้องพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นการออกจากราชการโดยผลของกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว จะต้องพ้นจากราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
      



             วันที่ 30 กันยายน ของทุกปี เป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งในชีวิตของข้าราชการ คือเป็นวันเกษียณอายุราชการสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีในปีนั้น  คำว่าเกษียณหรือปลดเกษียณออกจะเป็นคำที่ฟังแล้วชวนให้รู้สึกหดหู่อยู่ไม่น้อย เพราะเหมือนกับการหมดสภาพที่จะทำงานต่อไปได้ หรือหมดความสำคัญต่อหน่วยงานนั้น ๆ อีกต่อไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ยังมีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการเรื่องต่าง ๆ  มีผู้คนห้อมล้อม แสดงอาการเคารพนบนอบ แต่พอเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม เป๊งตำแหน่งหน้าที่และอำนาจราชศักดิ์ต่าง ๆ ก็จะหายวับไปกับตา ถ้าคิดเล่น ๆ ก็เหมือนกับคนที่ป่ายปีนภูเขาสูงชันด้วยความยากลำบากมาตลอดชีวิต แต่วันหนึ่งเมื่อขึ้นถึงยอดเขา ก็คือวันที่ต้องกระโดดลงมาสู่พื้นล่าง
            ภาวะที่สำนวนกำลังภายในเรียกว่า “สูงสุดคืนสู่สามัญ” นี้ แท้จริงแล้วเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถานะทางเศรษฐกิจ สถานะทางสังคม หรือการงาน หากรู้เท่าทันหรือเตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้า ก็คงจะไม่กระไรนัก และอาจจะปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ไม่ยาก เคยคุยกับคนในวัยเกษียณหลายคนถึงความรู้สึกในวันที่เปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการประจำเป็นข้าราชการบำนาญ บางคนก็บอกว่ามันรู้สึกโหวง ๆ ยังไงไม่รู้ ถามต่อว่าโหวงขนาดไหนก็ได้รับคำตอบว่าโหวงเหมือนนุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียว นี่แสดงว่าคงจะใส่เครื่องแบบหรือใส่สูทมาจนชิน พอเอาอินทรธนู เอาดาวเอามงกุฎ เอาเน็คไท เอาเสื้อนอกออกไป ก็เลยรู้สึกโล่งโจ้ง แต่บางคนก็บอกว่าสบายจัง ได้กลับเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ไม่ต้องสวมหน้ายักษ์หน้าลิง หรือเต้นไปตามจังหวะที่คนอื่นเคาะ รู้อย่างนี้จะรีบเกษียณเสียนานแล้ว
            จริง ๆ แล้ว ถ้าหากทำความเข้าใจได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ไม่ว่าจะเป็นยศถาบรรดาศักดิ์เครื่องแบบ ตำแหน่งต่าง ๆ หรือแม้แต่อายุ ก็คงจะทำให้เกิดความสบายอกสบายใจขึ้น เพราะถ้าจะพูดไปแล้ว เวลาหลังเกษียณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต และคนที่เป็นข้าราชการนั้นถ้าพูดแบบโบราณก็ต้องเรียกว่าเป็นทวิชาชาติ คือเกิดสองหนในชาติเดียวกัน เพราะเมื่อหมดจากชาติที่เป็นข้าราชการแล้ว ยังมีชาติของความเป็นสามัญชนอยู่อีกชาติหนึ่ง ผิดกับชาวไร่ชาวนาหรือพ่อค้าแม่ขายที่เกิดมามีอาชีพอะไรก็มักจะทำอาชีพนั้นไปจนตาย และชาติใหม่หลังเกษียณนี้เป็นชาติที่ค่อนข้างจะมีแต้มต่ออย่างสูงทั้งความรู้ ประสบการณ์การทำงาน ทุนทรัพย์ เครือข่าย และพันธมิตร ยิ่งในยุคปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปไกล จึงทำให้คนในวัยเกษียณมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ ก็อาจจะสามารถอยู่ดูโลกได้ถึงอายุ 80-90 ปี อย่างสบาย ๆ
            นอกจากสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรก็ได้ครับให้ใจของตัวเองเป็นสุข รวมทั้งหัวใจของลูกหลานหรือคนรอบข้างเป็นสุขด้วย บางคนอาจจะลงทุนลงแรงทำกิจการของตัวเอง บางคนก็อาจจะมีบริษัทห้างร้านว่าจ้างต่อ หรือบางคนก็อาจจะใช้ชีวิตสบาย ๆ กับงานที่ตนชอบ เดินทางท่องเที่ยว เข้าวัดเข้าวา เล่นกีฬา หรือพบปะเพื่อนฝูง รวมทั้งทำกิจกรรมเพื่อสังคม  อ้อ แล้วก็อย่าลืมตามโลกให้ทันด้วย
            โลกตะวันตกมีความเชื่อในอำนาจของผู้สูงอายุ หรือ Grey Power มานานแล้ว ดังนั้น คนในวัยเกษียณจึงไม่ใช่คนแก่ที่มีหน้าที่เลี้ยงหลานอย่างที่คนไทยชอบพูดกัน แต่คนในวัยนี้แหละครับที่เป็นทั้งเสาหลัก รวมทั้งมันสมองและพลังขับดันพลวัตรเศรษฐกิจและสังคมของบ้านเมืองได้